การขนานไฟ คืออะไร ?
การขนานไฟ คือ การเชื่อมต่อระบบผลิตไฟฟ้าจากการ ติดตั้งโซล่าเซลล์ เข้ากับระบบไฟฟ้าของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อให้ทั้งสองระบบทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก โซล่าเซลล์ จะถูกนำมาใช้ภายในบ้านหรืออาคารก่อน และส่วนที่เหลือจะถูกส่งกลับเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้เราสามารถ ประหยัดค่าไฟ ที่ต้องจ่ายได้
เหตุผลที่ผู้ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ต้องขออนุญาตขนานไฟ
เพื่อความปลอดภัย
- การเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าเข้าด้วยกัน จำเป็นต้องมีการออกแบบ และ ติดตั้งที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้และระบบไฟฟ้า
เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมาย
- การ ติดตั้งโซล่าเซลล์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจถูกดำเนินคดีได้
เพื่อให้ได้รับการรับรอง
- การขออนุญาตขนานไฟ จะเป็นการยืนยันว่าระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งได้มาตรฐาน และสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง
เพื่อเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน
- บางโครงการอาจมีเงื่อนไขให้ผู้ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ต้องขออนุญาตขนานไฟ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ขั้นตอนการขออนุญาตขนานไฟ
การยื่นขออนุญาต
- ผู้ที่ต้องการ ติดตั้งโซล่าเซลล์ จะต้องยื่นขออนุญาตขนานไฟกับการไฟฟ้า โดยยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น แบบฟอร์มคำขอ, ข้อมูลของระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้ง, ข้อมูลของผู้ติดตั้ง
การตรวจสอบระบบ
- เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะทำการตรวจสอบว่าอุปกรณ์และการติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่
การติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ
- เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ผู้ติดตั้งจะทำการติดตั้งระบบและเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลัก
การตรวจสอบและการอนุมัติสุดท้าย
- เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า จะมาทำการตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นไปตามข้อกำหนดและสามารถใช้งานได้ตามปกติ
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม
- ค่าใช้จ่าย การขออนุญาตขนานไฟจะมีค่าใช้จ่ายตามที่การไฟฟ้ากำหนด
- ระยะเวลา ระยะเวลาในการดำเนินการขออนุญาต ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของระบบและปริมาณงานของการไฟฟ้า
- ผู้ติดตั้ง ควรเลือกผู้ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความสามารถในการดำเนินการขออนุญาตขนานไฟ
คุณสมบัติที่ต้องมีสำหรับการขอขนานไฟ ระบบโซล่าเซลล์
ประเภทของอาคาร และ สถานที่
- ผู้ขอขนานไฟต้องมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ที่ต้องการ ติดตั้งโซล่าเซลล์ Solar Rooftop หรือ พลังงานทดแทนอื่น ๆ
- อาคารหรือสถานที่นั้นต้องไม่เป็นอาคารที่มีข้อจำกัดตามกฎหมาย เช่น อาคารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่มีข้อบังคับพิเศษ หรือพื้นที่ ที่ไม่สามารถติดตั้งระบบพลังงานทดแทนได้
ระบบที่ต้องการ ติดตั้งโซล่าเซลล์
- ระบบที่ติดตั้งต้องมีคุณสมบัติตามที่การไฟฟ้ากำหนด เช่น ระบบโซล่าเซลล์ ที่มีขนาดการผลิตไม่เกินข้อกำหนด (เช่น ระบบที่มีขนาดไม่เกิน 10 kw สำหรับการขอขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้า)
- ระบบต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน IEC 62109
การมีระบบ inverter ที่เหมาะสม
- ผู้ขอขนานไฟจะต้องติดตั้งอินเวอร์เตอร์ที่มีคุณสมบัติสามารถแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซล่าเซลล์ เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่ใช้ได้กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า
- อินเวอร์เตอร์ต้องสามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลักได้อย่างปลอดภัย และต้องมีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟฟ้าล้มเหลว
การติดตั้งที่ได้มาตรฐาน
- การติดตั้งระบบต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของการไฟฟ้า ทั้งในด้านความปลอดภัยและการป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า
- ต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการเกิดอันตราย เช่น อุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า (Surge Protector) และอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว
การตรวจสอบและการรับรองจากผู้ติดตั้งที่มีใบอนุญาต
- ผู้ติดตั้งต้องมีใบอนุญาตและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานของการไฟฟ้า หรือหน่วยงานด้านพลังงานที่รับผิดชอบ
- ผู้ติดตั้งต้องผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ ในการติดตั้งระบบพลังงานทดแทนเพื่อให้การติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐาน
ข้อควรระวังเพื่อให้ได้รับอนุมัติจากการไฟฟ้า
การตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน
- ผู้ขอขนานไฟจะต้องกรอกแบบฟอร์มคำขอให้ครบถ้วนและแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น แบบแปลนการติดตั้ง, ข้อมูลอุปกรณ์ที่ใช้, รายละเอียดของอินเวอร์เตอร์ ฯลฯ
- ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับขนาดและประเภทของระบบที่ติดตั้ง
การติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการรับรอง
- การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการรับรองจากการไฟฟ้า หรือมาตรฐานสากลอาจทำให้การขอขนานไฟไม่ได้รับการอนุมัติ ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น IEC หรือ UL
การติดตั้งที่ไม่ปลอดภัย
- การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ โดยไม่มีการป้องกันความปลอดภัยหรือการใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้การขอขนานไฟไม่ผ่านการอนุมัติ
- ระบบต้องติดตั้งโดยผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขนาดของระบบที่เกินกว่าข้อกำหนด
- หากระบบมีขนาดเกินกว่าที่การไฟฟ้ากำหนด (เช่น ขนาดเกิน 10 kw ในกรณีของการขายไฟฟ้าคืน) จะต้องขออนุญาตในรูปแบบที่แตกต่างออกไป หรืออาจไม่สามารถขายไฟฟ้าคืนได้
การตรวจสอบระบบจากการไฟฟ้า
- เมื่อยื่นคำขอขนานไฟ ผู้ขอจะต้องยอมให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตรวจสอบการติดตั้งเพื่อยืนยันว่าอุปกรณ์และการติดตั้งเป็นไปตามข้อกำหนด ความล่าช้าในการตรวจสอบหรือการติดตั้งที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดอาจทำให้กระบวนการขอขนานไฟล่าช้าหรือไม่ได้รับอนุมัติ
การคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน
- ในบางกรณี หากระบบโซล่าเซลล์หรือ พลังงานทดแทน ที่ติดตั้งไม่สามารถผลิตพลังงานเพียงพอสำหรับการใช้งานหรือไม่ได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอาจส่งผลต่อการอนุมัติจากการไฟฟ้า
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการขอขนานไฟกับการไฟฟ้า “เอกสารและขั้นตอน”
1. เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอขนานไฟ
แบบฟอร์มคำขอขนานไฟ
- ผู้ขอขนานไฟจะต้องกรอกแบบฟอร์มคำขอขนานไฟที่ การไฟฟ้า กำหนด ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของการไฟฟ้า หรือไปกรอกที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่
สำเนาบัตรประชาชน หรือ ทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของบ้านหรืออาคาร
- สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีที่เจ้าของอาคารไม่ใช่ผู้ขอขนานไฟ)
แผนผังการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์
- ต้องมีแผนผังการติดตั้งที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งแผงโซล่าเซลล์และการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลัก
ใบรับรองจากผู้ติดตั้ง
- หากคุณใช้บริการจากผู้ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ที่ได้รับการรับรอง ควรมีใบรับรองหรือหลักฐานจากผู้ติดตั้งว่าได้ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์อย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
ข้อมูลการติดตั้ง
- ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น ข้อมูล อินเวอร์เตอร์ (Inverter), แผงโซล่าเซลล์ (Solar Panels) และระบบไฟฟ้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
แบบฟอร์มการตรวจสอบระบบไฟฟ้า (ถ้ามี)
- ในบางกรณี การไฟฟ้าอาจจะขอให้มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าหรือขอเอกสารจากวิศวกรไฟฟ้าผู้มีใบอนุญาตในการออกแบบและตรวจสอบระบบไฟฟ้า
2. ขั้นตอนการขอขนานไฟ
กระบวนการขอขนานไฟสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลัก ๆ ได้ดังนี้
เตรียมเอกสารและขออนุมัติ
- กรอกแบบฟอร์มคำขอ ผู้ขอขนานไฟต้องกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตขนานไฟที่การไฟฟ้ากำหนด โดยระบุข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลเกี่ยวกับระบบโซล่าเซลล์
- ยื่นเอกสาร นำเอกสารที่เตรียมไว้ (สำเนาบัตรประชาชน, แผนผังการติดตั้ง, ใบรับรองจากผู้ติดตั้ง ฯลฯ) ไปยื่นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ตามพื้นที่ที่ติดตั้งระบบ
การตรวจสอบเอกสารและการออกใบอนุญาต
- เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะทำการตรวจสอบเอกสาร ที่ยื่นว่าเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่
- หากเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการติดตั้งของระบบว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ โดยอาจมีการไปตรวจสอบหน้างาน (ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของระบบ)
- ถ้าระบบถูกต้องและไม่พบปัญหาจะออกใบอนุญาตการขนานไฟ (หรือการขอขนานไฟ)
การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์
- เมื่อได้รับอนุญาตจากการไฟฟ้าแล้ว ผู้ขออนุญาตสามารถเริ่มการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ตามแผนผังที่ยื่นไป
- ผู้ติดตั้งที่รับผิดชอบต้องเป็นผู้ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องติดตั้งตามมาตรฐานที่การไฟฟ้ากำหนด
การตรวจสอบระบบ (หลังติดตั้ง)
- หลังจากการติดตั้งเสร็จสิ้น จะมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเพื่อให้มั่นใจว่าระบบติดตั้งถูกต้องตามมาตรฐานและข้อกำหนดความปลอดภัย
- หากไม่มีปัญหาหรือข้อบกพร่องในการติดตั้ง เจ้าหน้าที่จะอนุมัติการขนานไฟและเริ่มต้นการใช้งานระบบได้
การเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า
- ระบบที่ติดตั้งจะถูกเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลัก โดยสามารถผลิตไฟฟ้าและส่งไฟฟ้ากลับสู่ระบบไฟฟ้าหรือใช้ในอาคารเอง
- ในกรณีที่ ติดตั้งโซล่าเซลล์ และมีไฟฟ้าส่วนเกินสามารถขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้าได้ (ขึ้นอยู่กับโครงการที่เปิดให้บริการ)
3. ช่องทางการติดต่อขนานไฟกับ การไฟฟ้า
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA): สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด
- เว็บไซต์ https://www.pea.co.th
- โทรศัพท์: 1129
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- เว็บไซต์: https://www.mea.or.th
- โทรศัพท์: 1130
สรุป ติดตั้งโซล่าเซลล์ จำเป็นต้อง “ขนานไฟ” ไหม?
จำเป็น! การขนานไฟเป็นขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อให้ระบบการ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าหลักได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถใช้ไฟฟ้าจาก โซล่าเซลล์ ภายในบ้านได้ และส่วนที่เหลือสามารถส่งกลับเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของ การไฟฟ้า(PEA) ได้ตามกฎหมาย
สนใจอ่านโครงการของภาครัฐที่ร่วมงานกับโซล่าเซลล์เพิ่มเติม โครงการโซลาร์เซลล์ภาคประชาชน