การติดตั้ง Solar Rooftop แบบ On-Grid System เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการใช้ พลังงานสะอาด และ ประหยัดค่าไฟฟ้า สำหรับบ้านและธุรกิจ ระบบนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา และเชื่อมต่อกับระบบกริด เพื่อใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในเวลาที่ต้องการ
พร้อมทั้งสามารถ ขายไฟฟ้าส่วนเกิน กลับให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Solar Rooftop แบบ On-Grid System คือ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของบ้านเรือน หรืออาคาร ซึ่งเชื่อมต่อกับ กริดไฟฟ้า (ระบบจ่ายไฟฟ้าหลักของประเทศหรือพื้นที่) และสามารถส่งพลังงานที่ผลิตได้กลับเข้าสู่กริดเมื่อมีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการของผู้ใช้งาน ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ในช่วงกลางวัน และหากไม่พอ ก็สามารถดึงไฟฟ้าจากกริดมาชดเชยได้
การทำงานของ On-Grid Solar Rooftop System
- ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เมื่อแสงอาทิตย์ส่องไปยัง แผงโซลาร์เซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์จะถูกแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งส่งไปยัง Inverter เพื่อแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่สามารถใช้งานได้ใน บ้าน หรือ อาคาร
- ใช้ไฟฟ้าเอง ผู้ใช้งานจะใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจาก แผงโซลาร์เซลล์ โดยตรงสำหรับการใช้งานในบ้านหรืออาคารสำนักงาน
- ส่งพลังงานเกินไปยังกริด หากการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มากกว่าความต้องการในช่วงเวลาหนึ่ง ระบบจะส่งพลังงานส่วนเกินกลับเข้าสู่กริดไฟฟ้า
- ดึงไฟฟ้าจากกริด ในช่วงเวลากลางคืนหรือเมื่อการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ ระบบจะดึง
ข้อดีของ โซล่ารูฟ แบบ On-Grid System
- ประหยัดค่าไฟฟ้า Solar Rooftop ช่วยลดค่าไฟฟ้า ของบ้านหรือธุรกิจได้มากโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวันที่มีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการ
- ลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมความยั่งยืน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- สร้างรายได้ ในบางกรณี เจ้าของบ้านสามารถขายไฟฟ้าที่ผลิตพลังงานได้ส่วนเกินกลับไปยังการไฟฟ้า ผ่านระบบการรับซื้อพลังงานส่วนเกิน (Net Metering) ซึ่งทำให้ได้รับเครดิตการใช้ไฟฟ้าหรือการจ่ายเงิน
- ไม่มีแบตเตอรี่ เพราะสามารถดึงไฟฟ้าจากกริดได้ ทำให้ไม่ต้องลงทุนในระบบแบตเตอรี่ที่มีต้นทุนสูง รวมถึงการไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ ทำให้การติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
ข้อจำกัดของ Solar Rooftop บบ On-Grid System
- ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง การติดตั้งระบบ โซล่าเซลล์ บนหลังคาอาจมีต้นทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง แม้ว่าจะมีการลดหย่อนภาษีหรือสนับสนุนจากรัฐบาลบางส่วนแล้วก็ตาม
- พื้นที่ติดตั้ง จำเป็นต้องมีพื้นที่หลังคาที่เหมาะสม (ไม่มีเงาหรือสิ่งกีดขวาง) เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการติดตั้ง Solar Rooftop แบบ On-Grid System
การติดตั้งระบบ โซล่ารูฟ แบบ On-Grid System คือ กระบวนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของบ้านเรือนหรืออาคาร เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบกริดไฟฟ้าหลักเพื่อใช้งานร่วมกัน การติดตั้งระบบนี้มีขั้นตอนหลัก ดังนี้
การประเมินความต้องการและการศึกษาความเหมาะสม
ก่อนการติดตั้ง จำเป็นต้องประเมินการใช้พลังงานไฟฟ้าของบ้านเรือนหรืออาคาร เพื่อคำนวณขนาดของระบบโซลาร์ที่เหมาะสม โดยพิจารณาจาก การใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนหรือปี ตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเลือกตำแหน่งที่ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ บนหลังคาควรพิจารณาจากทิศทางของแสงแดดว่าตำแหน่งไหนที่ได้รับแสงอาทิตย์มากที่สุดในช่วงเวลาของวัน
การออกแบบระบบ
- ออกแบบขนาดและประเภทของระบบ วิศวกรหรือผู้ติดตั้งจะคำนวณและออกแบบระบบให้เหมาะสมกับความต้องการพลังงานของผู้ใช้งาน รวมถึงขนาดของแผงโซลาร์เซลล์ (กำลังวัตต์) จำนวนแผงที่ต้องใช้ และ เลือกอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่เหมาะสมกับระบบ
- แผนการเชื่อมต่อกริด ต้องมีการออกแบบการเชื่อมต่อกับระบบกริดไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้งมิเตอร์ เพื่อวัดการใช้และการส่งพลังงานกลับเข้ากริด (Net Metering)
การขออนุญาต
การขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การติดตั้งระบบ On-Grid จำเป็นต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รวมถึงการตรวจสอบจากหน่วยงานท้องถิ่นหรืออาคารเพื่อให้การติดตั้งเป็นไปตามข้อกำหนดและข้อบังคับ สามารถดูรายละเอียดการขออนุญาตได้ที่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
- ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ แผงโซลาร์เซลล์จะถูกติดตั้งบนหลังคาตามตำแหน่งที่มีแสงแดดมากที่สุด โดยต้องมีการยึดแผงโซลาร์เซลล์ให้มั่นคง ป้องกันการเสียหายจากลมพายุ
- ติดตั้งระบบรางและโครงสร้าง การติดตั้งโครงสร้างหรือรางที่รองรับแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อให้แผงสามารถปรับมุมเอียงได้ตามการรับแสงแดด
การติดตั้งอินเวอร์เตอร์ (Inverter)
- ติดตั้งอินเวอร์เตอร์ อินเวอร์เตอร์จะทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่สามารถใช้งานได้ในบ้านหรืออาคาร และเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้า
- การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตู้ควบคุมไฟฟ้า (Distribution Board) หรือการติดตั้งระบบการควบคุมไฟฟ้าต่าง ๆ ที่จำเป็น
การเชื่อมต่อกับระบบกริด (Grid Connection)
- ติดตั้งมิเตอร์ (Net Metering) ระบบมิเตอร์จะช่วยให้สามารถวัดปริมาณไฟฟ้าที่ผู้ใช้งานใช้จริงจากแผงโซลาร์เซลล์ และปริมาณไฟฟ้าที่ส่งกลับไปยังกริด
- เชื่อมต่อระบบกับกริดไฟฟ้า เมื่อระบบทั้งหมดติดตั้งเสร็จแล้ว จึงทำการเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้าหลัก โดยจะมีการตรวจสอบความสมบูรณ์ของการติดตั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การทดสอบและตรวจสอบ
- ทดสอบระบบ หลังจากติดตั้งระบบเสร็จแล้ว ทีมงานจะทำการทดสอบการทำงานของระบบว่าแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ และการเชื่อมต่อกริดทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้หรือไม่
- ตรวจสอบความปลอดภัย ต้องตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า เช่น การติดตั้งสายไฟฟ้าและระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือการป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
การเริ่มใช้งานและการรับรอง
- เปิดใช้งานระบบ เมื่อทดสอบเสร็จและผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ระบบสามารถเริ่มใช้งานได้ และสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามความต้องการ
- การรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อระบบเชื่อมต่อกับกริดแล้ว จะมีการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การบำรุงรักษา
การบำรุงรักษาระบบ ถึงแม้ว่าระบบ On-Grid จะมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ และการตรวจเช็กอินเวอร์เตอร์ จะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
วิธีการขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าในระบบ On-Grid
การขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าในระบบ On-Grid คือ การส่งพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบ Solar Rooftop กลับเข้าสู่กริด (ระบบไฟฟ้าหลักของประเทศ) ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีการ ดังนี้
ติดตั้งระบบ Solar Rooftop แบบ On-Grid
ติดตั้งแผง Solar Panel บนหลังคา และระบบ Inverter เปลี่ยนกระแสไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (DC) ให้เป็นกระแสไฟฟ้าแบบสลับ (AC) ที่ใช้ได้ในบ้าน
ติดตั้งมิเตอร์วัดการใช้ไฟฟ้า (มิเตอร์ไฟฟ้า 2 ทิศทาง) เพื่อวัดไฟฟ้าที่ใช้และไฟฟ้าที่ส่งกลับเข้าสู่กริด
สมัครโครงการขายไฟฟ้าคืน (Net Metering หรือ Feed-in Tariff)
- ต้องลงทะเบียนและขออนุญาตจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่คุณอยู่
- ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องสมัครเข้าร่วมโครงการขายไฟฟ้าคืน เช่น Net Metering หรือ Feed-in Tariff ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะช่วยให้คุณสามารถขายไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้งานคืนให้กับการไฟฟ้า
การส่งไฟฟ้าคืน
เมื่อระบบผลิตไฟฟ้ามากกว่าที่บ้านต้องการใช้ กระแสไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้จะถูกส่งกลับไปยังระบบกริด และมิเตอร์ไฟฟ้า 2 ทิศทาง จะวัดทั้งการใช้ไฟฟ้าจากกริดและการส่งไฟฟ้าคืนเข้ากริด โดยผู้ใช้จะได้รับเครดิตสำหรับไฟฟ้าที่ส่งกลับไป
การคำนวณและการชำระเงิน
- ระบบ Net Metering หากคุณใช้ไฟฟ้าจากกริดในช่วงเวลาที่ไฟฟ้าผลิตจากแผงโซลาร์ไม่เพียงพอ (เช่น กลางคืน) การไฟฟ้าจะหักลบจากเครดิตที่คุณได้ส่งคืนในช่วงกลางวัน หรือจ่ายเงินตามหน่วยการใช้ไฟฟ้า
- ระบบ Feed-in Tariff ผู้ใช้จะได้รับการจ่ายเงินหรือเครดิตในอัตราที่ตกลงกันสำหรับไฟฟ้าที่ขายคืนเข้ากริด
การตรวจสอบและบำรุงรักษา
ระบบจะต้องได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด โดยการไฟฟ้าจะมีการตรวจสอบคุณภาพการส่งไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ
เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรมีการดูแลรักษาแผงโซลาร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นระยะ
การรับเงิน/เครดิต
- โครงการ Feed-in Tariff หรือมีการใช้ระบบที่เหมาะสม ระบบจะมีการจ่ายเงินหรือเครดิตให้กับคุณตามอัตราที่ตกลง
- โครงการ Net Metering จะนำการใช้ไฟฟ้าและการส่งกลับมาเคลียร์เป็นยอดรวมตามระยะเวลา (เดือน/ปี)
ค่าใช้จ่ายและการคืนทุนของระบบ On-Grid
การติดตั้งระบบ Solar Rooftop แบบ On-Grid System มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อพิจารณาถึงการประหยัดค่าไฟฟ้าและผลประโยชน์ระยะยาว ระบบนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เนื่องจากสามารถลดค่าไฟฟ้ารายเดือนและมีโอกาสขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้กับการไฟฟ้าได้ โดยค่าใช้จ่ายและการคืนทุนของระบบสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบ
- ค่าแผงโซลาร์เซลล์ เป็นส่วนสำคัญที่สุดในระบบ โดยราคาของแผงโซลาร์เซลล์จะขึ้นอยู่กับคุณภาพและขนาดของระบบที่ติดตั้ง
- ค่าอุปกรณ์เสริม เช่น อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ระบบการเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้า แบตเตอรี่ และอื่นๆ
- ค่าบริการติดตั้ง ค่าแรงงานในการติดตั้ง การตรวจสอบและทดสอบระบบ
- ค่าออกใบอนุญาต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตติดตั้งจากการไฟฟ้า
การคืนทุน
การคืนทุนของระบบ On-Grid Solar Rooftop ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของระบบ อัตราค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ การขายไฟฟ้าคืนการไฟฟ้า และปริมาณการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน
- ระยะเวลาคืนทุน โดยทั่วไปแล้วการคืนทุนของระบบ On-Grid มักจะใช้เวลาประมาณ 5 – 7 ปี ขึ้นอยู่กับการประหยัดค่าไฟฟ้าและระบบที่ติดตั้ง หากพิจารณาจากค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพ
- ค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคาร และปริมาณพลังงานที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์
- การขายไฟฟ้าคืน ในบางประเทศหรือพื้นที่ที่มีระบบ Net Metering หรือ Feed-in Tariff ผู้ใช้สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับให้กับการไฟฟ้าได้ ซึ่งสามารถทำให้คืนทุนเร็วขึ้น
ผลประโยชน์ระยะยาว
- ลดค่าไฟฟ้า ประหยัดค่าไฟฟ้ารายเดือนที่ต้องจ่ายให้กับการไฟฟ้า
- รายได้จากการขายไฟฟ้าคืน หากระบบมีการเชื่อมต่อกับกริดและขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับไปยังการไฟฟ้าได้
- เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน การติดตั้งระบบโซลาร์สามารถเพิ่มมูลค่าของบ้านหรืออาคารที่ติดตั้ง
ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา
- ระบบ On-Grid โซลาร์รูฟท็อปมีการบำรุงรักษาต่ำ โดยการดูแลทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์และตรวจเช็คการทำงานของระบบเป็นประจำ เช่น ทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจะค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประโยชน์ระยะยาวที่ได้
โครงการ Solar Rooftop แบบ On-Grid System ลดค่าไฟฟ้า และสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับสู่ระบบกริด เพื่อสร้างรายได้หรือเครดิตพลังงาน
โครงการ Solar Rooftop แบบ On-Grid System หรือ โซล่ารูฟ เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่ยั่งยืน การติดตั้งระบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เจ้าของบ้านหรือธุรกิจสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้
แต่ยังสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับสู่ ระบบกริด เพื่อสร้างรายได้หรือเครดิตพลังงานอีกด้วย ทั้งนี้การติดตั้งระบบ On-Grid ยังช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลในระยะยาว โดยการประเมินความเหมาะสมและการขออนุญาตที่ถูกต้องถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการดำเนินโครงการให้ประสบความสำเร็จ